- สนใจประกาศขายบ้าน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
- ซื้อ
- ประเภทอสังหาฯใน เชียงใหม่
- เชียงใหม่
- ดูประกาศล่าสุด
- ซื้อบ้านกับ SamuiTimes ดีอย่างไร?
- เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
โครงการ บีลีฟ สันทราย-แม่โจ้ เป็นโครงการประเภท บ้านเดี่ยว / วิลล่า ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ หนองหาร, เชียงใหม่ และได้สร้างเสร็จแล้วเมื่อ ธ.ค. 2566 โดยมีทั้งหมด 357 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการคุณภาพโดย Ornsirin Group และเป็นบริษัทเดียวกันที่ได้พัฒนาโครงการ Ornsirin Ville - Chotana (อรสิรินวิลล์ โชตนา), Arise Charoen Mueang (อะไรซ์ เจริญเมือง) และ The Next Jedyod 2 (เดอะ เน็กซ (เจ็ดยอด 2)). อีกด้วย
ลองเช็คดูก่อนว่าบ้านของคุณนั้นควรมีราคาอยู๋ที่ประมาณเท่าไหร่ ในทำเลนี้?
The company was founded by acquirring a small housing project and renamed as “Ornsirin 1” with a starting capital of 10 million Baht. With in only one year, the company was able to close the first housing project sale. - 2006
2007 – 2009 During these years, Thailand’s property boom has benefited our company’s sales revenue. The sales was gradually increased and the company developed another project; Ornsirin 2.
2010 – 2011 The Company expanded exponentially; 5 projects (namely Ornsirin 3, Ornsirin 4, Ornsirin 5, Ornsirin Townhome 1 and The Next Condominium 2) where our first townhouse project and condominium project were launched during these years. The company’s sales revenue started to grow steadily.
2012 The company increased the registered capital to 500 million baht, preparing for expansion of new property development projects. The total capital of the conpany and subsidiaries were at 700 million baht, where 6 new projects (Ornsirin 6, Business Center 1, Business Center 2, The Next Condominium 1 and The Next Condominium 3) were launched during this year.
2013 – 2014 Ornsirin saw big potential in luxury property market, The ASTRA Condominium (one of the biggest residential condominiums with over 60,000 sqm. of construction area in Chiangmai) was launched. Four low-rise projects were also launched; namely Business Center 4, Business Center 5, Ornsirin 11 and Ornsirin 14, which eventually pushed the toal project value to 8,600 million baht.
2015 During this year, Ornsirin has gone through series of improvements which including restructuring the management of the organization, recruiting real-estate professionals, introducing the Quality Management System (ISO 9001) into the company working system and preparing for listing in Thailand Stock Market in the future. The company mission and vision of being a leading proprty developer in Northern Thailand focusing on building a better living for home buyers and all stakeholders under a good governance were enrooted into our employee’s minds. Parenting company, Ornsirin Holding, was established for enhancing the structure for the company future expansion. Four other subsidiaries were also founded, including of North Home company (focus on high-rise condominium project), North Home property company (focus on low-rise condominium project), Ornsirin Group company (focus on commercial property) and Ornsirin Property company (focus on housing property).
2016 New commercial building of shophouse was launched. Urban Myx was our 19th project on the pipeline.
2017 On Febuary 2017, Five subsidiaries were amalgamated into “Ornsirin Property company”, which operated under “Ornsirin Holding company” in order to preparing to be listed in Thailand stock market later on.
2018 Under our vision of to be a leading property developer in Northern Thailand, Ornsirin is prepared to launch 3 more projects which are a single house project, a modern style townhouse project and resort-style condominium project.
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ บีลีฟ สันทราย-แม่โจ้ และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน
โครงการ บีลีฟ สันทราย-แม่โจ้ อยู่ห่างจาก 7-eleaven เซเว่นอีเลฟเว่น ตลาดแม่โจ้ เพียงแค่ 600 เมตรเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเดินไปเพียง 7 นาที
และยังมีร้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ บีลีฟ สันทราย-แม่โจ้ ซึ่ง 3 ร้านที่ใกล้ที่สุด คือ
- ร้านอัมพรผ้าฝ้าย สาขาตลาดแม่โจ้ อยู่ห่างไปเพียง 740 เมตร (เดินแค่ประมาณ 9 นาที)
- วราภรณ์ อยู่ห่างแค่ 1.2 กม. (ใช้เวลาขับรถไปประมาณ 3 นาที)
- วี สไมล์ เซ็นเตอร์ ซึ่งอยู่ห่างไปแค่ 1.6 กม. (สามารถขับรถไปแค่ประมาณ 3 นาที)
ร้านอาหารที่ใกล้กับโครงการ บีลีฟ สันทราย-แม่โจ้ นั้นมีให้เลือกมากมาย เราขอเสนอร้านที่ใกล้ที่สุด ดังนี้
- Mummy Meal นั้นอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 330 เมตร (ซึ่งคุณสามารถเดินไปที่ร้านได้ ในเวลาประมาณ 4 นาที เท่านั้น)
- อาหารเมือง-ครัวคุณนุ อยู่ห่างจากโครงการเพียง 430 เมตร (คุณแค่เดินไปประมาณ 5 นาที ก็ถึงแล้ว)
- อาการเมือง-ครัวคุณนุแม่โจ้ นั้นอยู่ห่างไปประมาณ 430 เมตร (เดินไปที่ร้านใช้เวลาประมาณ 5 นาที)
หน่วยกู้ชีพกู้ภัยแม่โจ้ เป็นสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห่างจากโครงการไป 600 เมตร (ซึ่งหากเดินไป ก็จะใช้เวลาประมาณ 7 นาที)
หากจะมองหาสถานศึกษาหรือแหล่งเรียนรู้ใกล้ๆกับโครงการ นี่คือสถานที่ที่เราแนะนำ
- Kru Noinah Tutor อยู่ห่างไปเพียง 590 เมตรเท่านั้น (เดินไปแค่ 7 นาที เท่านั้นเอง)
- Ban Mae Jo School อยู่ห่างแค่ 830 เมตรเท่านั้น (หากจะเดินไป ก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)
- ศูยน์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง นายสิงห์คำ เคหัง อยู่ห่างไปประมาณ 1.7 กม. (สามารถขับรถไปโดยประมาณ 4 นาที)
Chiang Mai International Airport นั้นอยู่ห่างจากโครงการ 20.0 กม. ซึ่งหากขับรถไปจะใช้เวลาโดยประมาณ 34 นาที หรือหากจะเดินทางด้วยแท๊กซี่ ก็ขึ้นอยู่กับการจราจร ณ ช่วงเวลานั้นๆ