- สนใจประกาศขายบ้าน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็นที่ดินสำหรับขาย มีขนาดพื้นที่ 167 ตรว. อยู่ในทำเล คลองประสงค์, กระบี่ ซึ่งคุณสามารถซื้อ ที่ดิน นี้ได้ที่ราคา ฿980,000 (฿0/ตรม.)
ประเภททรัพย์ ที่ดินว่างเปล่า ขนาดพื้นที่ : 1 งาน 67 ตารางวา - หน้ากว้างประมาณ 18 เมตร x ยาว 37 เมตร = 666 ตารางเมตร ที่อยู่ : บ้านเกาะกลาง หมู่ที่ 2 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ ประเภทเอกสารสิทธิ์ : โฉนดที่ดิน หรือ น.ส. 4 จ. ที่นี่เขาเรียกว่าหมู่บ้านเกาะกลาง ซึ่งเป็นเกาะเล็กที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของวิถีชุมชนที่เรียบง่ายของจังหวัดกระบี่และยังคงรักษาเอกลักษณ์ท้องถิ่นไว้ได้เป็นอย่างดี ห้อมล้อมไปด้วยป่าชายเลนบริเวณปากแม่น้ำ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าโกงกางนับพันไร่ ผู้คนส่วนใหญ่ในชุมชนจะนับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 97 ส่วนที่เหลือนับถือศาสนาพุทธอาศัยอยู่ 3 หมู่บ้าน ประชากรทั้งหมดราว 5,000 คน มีขนาดพื้นที่ 26 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 16,250 ไร่ โดยมีทั้งหมด 3 หมู่บ้าน หมู่ที่ 1 บ้านเกาะกลาง หมู่ที่ 2 บ้านคลองประสงค์ และหมู่ที่ 3 บ้านคลองกำ โดยคนส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพ เกษตรกรรม ประมงพื้นบ้าน ซึ่งบนเกาะกลางนั้นมีกลุ่มอาชีพหลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มเพนท์ผ้า ทำผ้าบาติก ทำเรือหัวโทง การสักหอยชายหาด หรือ การขุดหอย โดยชาวบ้านจะสักหอยบริเวณชายหาดในช่วงที่น้ำทะเลลด การเที่ยวรอบเกาะจะปั่นจักรยานเที่ยว จะขี่มอเตอร์ไซต์ หรือใช้บริการรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างไว้ค่อยบริการนำนักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับธรรมชาติและวิถีชุมชนที่บ้านเกาะกลางกันโดยสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวและจุดต่างๆ ระยะทางรอบเกาะประมาณ 11 กิโลเมตร ข้อสำคัญนะครับภายในเกาะจะไม่มีถนนรถยนต์ โดยพี่ๆที่ให้บริการสามล้อพ่วงข้างก็เป็นคนในชุมชนบ้านเกาะกลาง ที่ทาง ททท.สำนักงานกระบี่ ได้เข้าไปให้การสนับสนุนและอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการให้บริการนักท่องเที่ยวกันด้วย สำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาดูทรัพย์นี้สามารถเดินทางโดยนั่งเรือหางยาวข้ามฟาก จากฝั่งตัวเมืองกระบี่ มายังฝั่งเกาะกลาง โดยใช้บริการได้ 2 ท่าเรือ คือ ท่าเรือสวนสาธารณะธารา มายังท่าเรือท่าเลใช้เวลาประมาณ 5 นาที หรือจากท่าเรือเจ้าฟ้ามายังทาเรือท่าหินใช้เวลประมาณ 15 นาที เรือให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม เมื่อมาถึงชุมชนบ้านเกาะกลางจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ยังคงความเป็นชนบท ตลอดสองข้างทางจะผ่านชุมชนมุสลิม ผ่านทุ่งนาข้าว ทุ่งเลี้ยงแพะ ร้านค้า ร้านอาหาร และยิ่งถ้าอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม - ตุลาคม จะได้สัมผัสกับการทำนาและทุ่งนาที่เขียวขจี ผ่านไป 3 - 4 เดือน ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศทุ่งนาที่เป็นสีทองเหลืองอร่ามไปด้วยรวงข้าวที่สุกพร้อมให้เก็บเกี่ยว รวมไปถึงบรรยากาศการลงแขกเกี่ยวข้าวของชาวบ้านที่นี้ ในช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม ข้าวที่บ้านเกาะกลางแห่งนี้จะเป็นข้าวสังข์หยดที่ปลูกปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และเป็นข้าวสังข์หยดที่อร่อยที่สุด ที่สำคัญเป็นข้าวสังข์หยดแบบเกษตรอินทรีย์ คำแนะนำในการซื้อที่ดินนี้ : ที่ดินเปล่าขนาด 1 งาน 67 ตารางวา เหมาะสำหรับทำบ้านพักอาศัยโฮมสเตย์และรีสอร์ทขนาดเล็ก รวมไปถึงกระท่อม บังกะโลเชิงอนุรักษ์และสำหรับพักผ่อนสบาย นอนฟังเสียงธรรมชาติบำบัด ทิศเหนือ ติดกับ ติดกับ ที่ดินหมายเลข 49240 ทิศใต้ ติดกับ ติดกับ ที่ดินหมายเลข 49238 ซึ่งเป็นทิศที่จะออกไปถนนคอนกรีต และทิศตะวันตก ติดกับ หัวคันนาซึ่งมีขนาดถนนประมาณ 2 เมตร ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนทางเดินสาธารณะ ความกว้างของถนนประมาณ 3 เมตร โดยที่ดินไม่ติดถนนคอนกรีต แต่ระยะห่างระหว่างถนนคอนกรีตประมาณ 80 เมตร สถานที่ใกล้เคียง : ห่างจากบ้านผู้ใหญ่บ้านประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาขับมอไซต์ประมาณ 1 นาที ห่างจากชายหาดประมาณ 700 เมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 9 นาที มัสยิดบ้านคลองประสงค์ ระยะทาง 1 กม. ใช้เวลาขับมอไซต์ประมาณ 3 นาที โรงเรียนบ้านคลองประสงค์ ระยะทาง 1.7 กม. ใช้เวลาขับมอไซต์ประมาณ 4 นาที ท่าเรือท่าหิน ระยะทาง 4 กม. ใช้เวลาขับมอไซต์ประมาณ 9 นาที เพื่อนั่งเรือเข้าตัวอำเภอเมือง อบต.คลองประสงค์ ระยะทาง 4 กม.ใช้เวลาขับมอไซต์ประมาณ 9 นาที ท่าเทียบเรือท่าเล ระยะห่าง 4.7 กม. ใช้เวลาขับมอไซต์ประมาณ 11 นาที เพื่อนั่งเรือเข้าตัวอำเภอเมืองไปลงที่ท่าเรือสวนสาธารณะธารา โอกาสเติบโตทางธุรกิจของที่ดินแปลงนี้ ดร.สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ตามที่กรมเจ้าท่า มีแผนพัฒนาท่าเรือชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อสนับสนุนการเดินทางและการท่องเที่ยว ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยในส่วนของชายฝั่งทะเลอันดามัน จะเริ่มศึกษาพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งทางทะเล ซึ่งในส่วนของจังหวัดกระบี่ โดยทางกรมเจ้าท่าได้มีแผนที่จะเชื่อมระหว่างตัวเมืองกระบี่กับหมู่บ้านเกาะกลาง โดยจากเดิมที่มีการเดินทางมายังเกาะกลางได้นั้นจะต้องเดินทางโดยใช้ท่าเรือสวนสาธารณะธารา ไปยังท่าเรือท่าเล โดยชาวบ้านต้องการให้มีสะพานเชื่อม ซึ่งมีระยะทางประมาณ 600-700 เมตร โดยนายสนิท พรหมปรุง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.เกาะกลาง ทราบว่าทางชาวบ้านในพื้นที่ ได้มีการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นและความต้องการของชาวบ้าน ปรากฏว่าชาวบ้านเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนอกจากจะทำให้การเดินทางข้ามฝาก ไม่ว่าจะเป็นการนำคนเจ็บป่วยไปส่งโรงพยาบาล และหนีภัยพิบัติต่างๆ จะทำใด้สะดวกขึ้นกว่าการเดินทางด้วยเรือข้ามฟากอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจำเป็นต้องถือครองด้วยวิธีการถือสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี หรือว่าการซื้อที่ดินภายในชื่อของบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น