- สนใจประกาศขายบ้าน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
- ซื้อ
- ประเภทอสังหาฯใน กรุงเทพมหานคร
- กรุงเทพมหานคร
- ดูประกาศล่าสุด
- ซื้อบ้านกับ SamuiTimes ดีอย่างไร?
- เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น คอนโด สำหรับขาย แบบ สตูดิโอ มีพื้นที่ใช้สอย 38 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ ออริจิ้น เพลส เพชรเกษม บนทำเลของ บางหว้า, กรุงเทพมหานคร และมีแผนการก่อสร้างให้แล้วเสร็จใน เม.ย. 2569 ซึ่งคุณสามารถซื้อ คอนโด นี้ได้ที่ราคา ฿3,651,350 (฿96,088/ตรม.)
โครงการ Origin Place Phetkasem ห้อง DUO SPACE 1 BEDROOM + SMART CLOSET ชั้น 21 (ห้องสูงมีชั้นลอย เทียบเท่ากับคอนโดปกติชั้น 20 กว่า) ขนาด 38 ตรม (ชั้นล่าง 25 ตรม / ชั้นบน 13 ตรม) ขายใบจอง 260,000 *ราคาห้องสุทธิที่ผู้ซื้อจ่าย หลังหักส่วนลดวันโอน 3,545,000 บาท (รวมเงินที่จ่ายผู้ขายแล้ว)* หน้าสัญญา 3,870,000 บาท ส่วนลดวันโอน 325,000 บาท (โอนประมาณ ตุลาคม 2569) เงินจอง+ทำสัญญา+จ่ายดาวน์แล้ว 16 งวด รวม 203,500 บาท (ณ 8 ต.ค. 67) ผู้ซื้อดาวน์ต่อทุกวันที่ 5 ของเดือน งวดละ 8,900 บาท งวดที่ 25, 32 งวดละ 30,000 บาท งวดที่ 33 (งวดสุดท้าย) 106,700 บาท ส่วนกลาง 63 บาทต่อตารางเมตร (ระบุในสัญญา) ค่าโอนคนละครึ่ง จุดเด่น 1. คอนโดทำเลดีมาก อยู่ติดบันไดรถไฟฟ้า เหมาะสำหรับคนขี้เกียจเดิน หาของกินก็ง่าย ตรงข้ามห้างซีคอนบางแค 7-11 หน้าคอนโด และอยู่ติดกับตลาดเสนีย์มีอาหารตามสั่งหลายร้าน มาดูทำเลจริงแล้วจะชอบ เดินใกล้ที่สุดในคอนโดละแวกนี้ 2. ใกล้โรงพยาบาลมิตรประชา โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ตึกสำนักงาน UOB มีศักยภาพในการปล่อยเช่า 3. รถไฟฟ้าสายเดียวเข้าเมืองไม่ต้องเปลี่ยนขบวน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีภาษีเจริญ เพียง 6 สถานีถึงสนามหลวง (สถานีสนามไชย) 8 สถานีถึงเยาวราช (สถานีวัดมังกร) 10 สถานีถึงสามย่าน 11 สถานีถึงสีลม 4. MRT ราคาถูกกว่า BTS บางหว้าถึงสีลม 37 บาท (ภาษีเจริญถึงสีลม 42 บาท) ในขณะที่ BTS บางหว้าถึงศาลาแดง (สีลม) 55 บาท คำนวณค่าเดินทางที่นี่ nbsp; 5. คอนโดยูนิตน้อย 353 ห้อง ไม่มีร้านค้า เพิ่มความเป็นส่วนตัว 6. คอนโดผ่าน EIA แล้ว 7. ห้องฝั่งวิวโล่ง มองเห็นวิวกว้างไกล ไม่มีตึกสูงของโครงการข้างๆบัง 8. วิวฝั่งตะวันออก รับแดดเช้า บ่ายไม่ร้อน 9. ห้องเพดานสูง 4.25 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่ง มีชั้นลอย ห้องนอน และ smart closet อยู่ชั้นลอย 10. ชั้น 15 เทียบเท่ากับคอนโดปกติชั้น 20 กว่า 11. พี้นที่ 28.7 ตร.ม. รวมชั้นลอย ประมาณ 40 ตร.ม. 12. สระว่ายน้ำ ฟิตเนส co-working space สวนชั้น 5,22 รายละเอียด Promotion ที่ได้รับ ระบุในสัญญา - Digital Door Lock - ชุดครัว - อ่างล้างจาน - ก๊อกอ่างล้างจาน - เตาไฟฟ้า - เครื่องดูดควัน - ตู้ลอยเหนือครัว - ตู้รองเท้า - ชั้นวางทีวี - โต๊ะอเนกประสงค์ - ฐานเตียงนอน 5 ฟุต - ตู้เสื้อผ้า - ฉากกั้นอาบน้ำ - เครื่องซักผ้า 8 กก (ฝาหน้า) รวมค่าติดตั้ง - เครื่องทำนำ้าอุ่น ขนาด 3500W รวมค่าติดตั้ง - ตู้เย็น 2 ประตู - ไมโครเวฟขนาด 20 ลิตร - เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว (12,000 และ 24,000 BTU) - ประกันคุ้มครองสัตว์เลี้ยง - ประกันคุ้มครองอุบัติเหตุ - room package 325,000 บาท (ส่วนลดวันโอน) หมายเหตุ รูปภาพ Duo Space ดึงมาจากเวปไซต์ออริจิ้นโครงการอื่น ใกล้เคียงกับห้องตัวอย่างที่โครงการออริจิ้น เพลส เพชรเกษม ดูห้องตัวอย่างจริงใน YouTube
ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในคอนโดมิเนียมได้ไม่เกินร้อยละ 49 ของจำนวนห้องทั้งหมดในโครงการ และ หากเป็นยูนิตที่ถือครองโดยคนไทย หรือ ถือครองแบบสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปีนั้น ก็สามารถเปลี่ยนเป็นการถือครองโดยชาวต่างชาติได้เช่นกัน หากโควต้ารวมทั้งหมดในโครงการยังไม่ถึง 49%
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ ออริจิ้น เพลส เพชรเกษม และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
สำหรับคอนโดมือหนึ่ง
- ก่อนการยื่นกู้ ผู้ซื้อจะต้องผ่อนชำระเป็นเงินดาวน์กับโครงการเป็นระยะเวลาหนึ่งตามตกลง เพราะฉะนั้นผู้ซื้อควรต้องมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งสำหรับผ่อนดาวน์ให้ครบสัญญา
- เมื่อยื่นกู้ ทางธนาคารมักจะอนุมัติให้กู้ได้เต็มจำนวน 100% ของยอดที่เหลือหลังผ่อนดาวน์ เพราะธนาคารจะประเมินว่าท่านมีศักยภาพเพียงพอในการผ่อนชำระ
สำหรับคอนโดมือสอง
- ไม่มีระบบผ่อนดาวน์กับทางผู้ขาย ก่อนการยื่นกู้
- ธนาคารมักจะไม่อนุมัติเต็มจำนวนให้ โดยทั่วไปจะอนุมัติที่ 80 - 90% ของราคาประเมิน หรือ ราคาซื้อขาย (ธนาคารมักจะเลือกราคาที่ต่ำกว่า)
- ผู้ซื้อควรต้องมีเงินสำรอง เพื่อรองรับกับยอดกู้ที่ขาดไป 10-20% เพื่อเป็นเงินจ่ายตรงให้กับผู้ขาย
- ผู้ซื้อควรมีเงินสำรองอีกก้อน เพื่อใช้สำหรับการซ่อมบำรุง
ทั้งนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกเปรียบเทียบการปล่อยกู้ของแต่ละธนาคารได้ก่อนการยื่นกู้ ซึ่งรายละเอียดอาจจะแตกต่างจากที่กล่าวมาข้างต้น ขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยและนโยบายของแต่ละธนาคาร
การซื้อคอนโดนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง หรือกำลังก่อสร้างอยู่ รวมไปถึงหากอยากมั่นใจริงๆ คือซื้อในช่วงที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ห้องที่ต้องการหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะโดยส่วนใหญ่ โครงการคอนโดมักจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่ช่วงยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างเลย โดยใช้กลยุทธทางการตลาดต่างๆ เพื่อดึงผู้ซื้อเข้ามาเพื่อนำเงินจองทำสัญญาและเงินดาวน์ต่างๆ เข้ามาเพิ่มเป็นเงินทุนในการดำเนินการก่อสร้างของโครงการ ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของผู้ซื้อ ดังนี้
1. ได้รับโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากกว่าปรกติ เช่น ส่วนลดพิเศษถ้าซื้อช่วง Pre-Sale, ได้รับเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดหลายชิ้นฟรี, ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ, หรือส่วนลดค่าส่วนกลางตามระยะที่กำหนด ฯลฯ
2. สามารถเลือกห้องที่ต้องการได้อย่างเสรี ทั้งแบบห้อง และ ทำเลของห้องเพราะเหลือห้องให้เลือกมากมาย
3. ธนาคารสามารถปล่อยให้กู้ได้เต็มจำนวนของค่าห้อง
4. หากท่านเป็นนักลงทุน การซื้อห้องแบบ Pre-Sale ก็จะช่วยให้ท่านสามารถเพิ่มกำไรในการ ปล่อยเช่า หรือ ขายต่อ ได้ดีมากอีกด้วย
แต่ในข้อดีบางอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ท่านก็ควรพิจารณาถึงข้อเสียไว้ด้วย ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ดังนี้
1. การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเข้าอยู่แบบเร่งด่วน หรือไม่เผื่อระยะเวลาให้กับการก่อสร้าง
2. ไม่ผ่านการขออนุมัติ EIA (หลายโครงการเปิดขายไปแล้ว ก่อสร้างไปแล้ว แต่ยื่นขอไม่ผ่าน)
3. หากเกิดข้อพิพาทใดๆ ในระหว่างการก่อสร้าง หรือ หลังจากสร้างเสร็จ ทำให้เสียเวลาในการฟ้องร้องและเสียสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก
4. มีโอกาสที่วิวต่างๆ หรือบรรยากาศการเข้าพัก ที่เคยคิดไว้ว่าเราจะได้รับเป็นอย่างดีเมื่อตอนก่อนก่อสร้าง จะถูกบดบังในอนาคตเพราะโครงการใหม่ ๆ อาจจะก่อสร้างในภายหลังได้